HR TEAMWORK

• จัดทำโครงสร้างเงินเดือน
• ประเมินโครงสร้างเงินเดือน
• สำรวจโครงสร้างเงินเดือน
• ประเมินค่างาน
• สร้าง Job Grade
• สรุปตำแหน่งงาน
• สำรวจตำแหน่งงาน
• ประชุมคณะทำงานต่อเนื่อง
  ฯลฯ

รายละเอียดเพิ่มต

• การวิเคราะห์และประเมินค่างาน (Job evaluation) 
• กำหนดโครงสร้างตำแหน่ง (Position Structure)
• การเปรียบเทียบอัตราค่าจ้าง (Pay benchmarking)
• ออกแบบโครงสร้างเงินเดือน (Salary structure)
• ออกแบบระบบบริหารเงินเดือน (Salary Administration System)
• การนำโครงสร้างเงินเดือนไปใช้ในการบริหารเงินเดือน (Salary structure implementation)

งบประมาณขึ้นอยู่กับขนาดองค์กร  
เริ่มต้น 35,000 บาทต่อเดือน (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

(( ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตำแหน่งงานขนาดเงื่อนไขการปฏิบัติงาน))

รูปแบบการทำงาน
โดยจะมีคณะที่ปรึกษาเข้าร่วมดำเนินการกับคณะทำงานภายในหน่วยงาน
โดยการประชุมหารือกระบวนการเพื่อดำเนินอย่างเป็นระบบ
ระยะเวลาในการดำเนินงาน 3-6 เดือน ตามสัญญาข้อตกลงหรือเงื่อนไขอื่นๆ

ระยะเวลาดำเนินงาน (โดยประมาณ)

องค์กรขนาด น้อยกว่า 50 คน ระยะเวลา 3 เดือน
องค์กรขนาด  50-100 คน ระยะเวลา 4 เดือน
องค์กรขนาด  100 คนขึ้นไป ระยะเวลา 6 เดือน

สอบถามรายละเอียด HR TEAMWORK
Tel : 02-096-4678 / 099-861-6149
LINE ID: hrteamwork2551

โครงสร้างเงินเดือนสำคัญอย่างไร?

โครงสร้างเงินเดือนเป็นเครื่องมือที่ช่วยฝ่ายบริหารในการควบคุมการจ่ายค่าตอบแทนให้มีความเหมาะสมกับงาน เกิดความยุติธรรมภายในองค์กร สามารถจูงใจให้พนักงานปฏิบัติงานอย่างเต็มความรู้ ความสามารถ และสามารถรักษาพนักงานให้อยู่กับองค์กรนานๆ และขณะเดียวกันก็สามารถควบคุมต้นทุนด้านแรงงาน อีกทั้งยังสามารถคาดการณณ์ต้นทุนแรงงานในอนาคตได้ นอกจากนี้ยังทำให้องค์กรสามารถแข่งขัน ด้านการจ่ายค่าตอบแทนกับองค์กรอื่นๆ ในตลาดแรงงานเดียวกันได้

ประโยชน์ของการจัดทำโครงสร้างเงินเดือนสำหรับองค์กร มีอะไรบ้าง?

1. องค์กรจะมีโครงสร้างการจ่ายค่าตอบแทนที่ชัดเจน ที่สามารถตอบคําถามข้อสงสัยจากพนักงานในองค์กรได้อย่างมีหลักการและเหตุผล รวมทั้งจะทำให้องค์กรสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรได้เป็นอย่างดี

2. องค์กรจะมีเครื่องมือพิจารณาทบทวนค่าของงานในตำแหน่งต่าง ๆ อย่างมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน และนํามาปรับปรุงการจ่ายค่าตอบแทนที่เหมาะสมได้ตลอดเวลา ทำให้แข่งขันกับตลาดได้อยู่เสมอ

3. มีโครงสร้างเงินเดือนที่ชัดเจนดึงดูดคนดีมีความสามารถเข้ามาร่วมงานได้

4. องค์กรจะมีข้อมูลการจ่ายค่าตอบแทนเพื่อใช้ในการเจรจากับพนักงาน สหภาพแรงงาน และสามารถจะชี้ให้เห็นถึงนโยบายการจ่าย ตลอดจนหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ได้อย่างมีหลักการและเหตุผล

5. ลดข้อร้องทุกข์ที่เกี่ยวกับการจ่ายค่าตอบแทนที่ไม่ยุติธรรมของพนักงานลง เพราะทุกคนในองค์กรจะใช้หลักเกณฑ์เดียวกัน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้บริหารเพียงอย่างเดียว

6. ใช้เป็นพื้นฐานในการบริหารจัดการด้านทรัพยากรบุคคลด้านอื่น ๆ เช่น การพัฒนาสายความก้าวหน้าในงาน, การวางระบบการประเมินผลการปฏิบัติงาน, การจัดทำเส้นทางการฝึกอบรมระยะยาว (Training Roadmap) สำหรับพนักงาน เป็นต้น

ที่มา : https://www.prachachat.net/csr-hr/news-766214